วันนี้จะพาไปรีวิว Qatar Airways First Class บนเครื่องบิน Airbus A380 ครับ ซึ่งช่วงนี้ Qatar นำเครื่องรุ่นนี้มาให้บริการเส้นทางกรุงเทพฯด้วย ทำให้มีโอกาสลองได้ แต่คนจองก็อาจจะต้องลุ้นหน่อยเพราะ Qatar Airways ชอบเปลี่ยนเที่ยวบิน สลับรุ่นอื่นมาบินในเที่ยวบินที่จองไว้ ผมโดนมา 3 รอบแล้ว Flight รีวิวนี้มาแบบฉุกละหุกหน่อย เพราะแลกไมล์มาได้แบบดวงสุดๆ เพราะตอนแรกเที่ยวบินนี้ไม่มี A380
ในปีที่แล้ว Qatar Airways นำ A380 กลับมาบินอีกครั้งเพราะคนเดินทางกันเยอะมากขึ้นหลังโควิดเริ่มดีขึ้น ทำให้เครื่องบินไม่พอ และสายการบินมีปัญหาเรื่อง surface ลอก บนฝูงบิน Airbus A350 เลยต้องนำ A380 มาบินเสริมทดแทน เส้นทางกรุงเทพเลยโชคดีได้ส้มหล่นมี A380 มาบินกับเขาด้วย
แต่คิดว่าอีกไม่นาน Qatar Airways ก็คง fade เครื่องบินรุ่นนี้ออก และทยอยปลด First Class ออกไปจาก product เพราะว่า QSuite ซึ่งเป็นชั้น Business Class ก็ดีมากๆ บางครั้งดีกว่า First Class ของบางสายการบินอีก ทางสายการบินคง fade out First class ไปภายใน 5 ปีข้างหน้าครับ ในอนาคตรีวิวนี้อาจจะกลายเป็นประวัติศาสตร์ เหมือนรีวิว TG Boeing 747-400 Bangkok – Sydney
รีวิวนี้จะรวมทั้งประสบการณ์ที่ First Class lounge ชื่อ Al Safwa Lounge และบนเครื่องบินมาพร้อมกันเลย
Flight
Aircraft: Airbus A380-800
Flight number QR832
Doha (DOH) – Bangkok (BKK)
Time 7.55 -19.05 (7hr 10min)
Registration A7-APH
Seat 2A
การจอง ผมจองเส้นทาง Johannesburg (JNB) – Doha – Bangkok ใช้ Qatar Avois 75,000 miles + ภาษี 3739.64 ZAR หรือประมาณ 7,000 บาท ซึ่งเป็นเรทแลก Business ได้ขาแรก JNB-DOH เป็น QSuite
ที่พิเศษคือ ผมได้ First Class ในอัตราไมล์ที่จ่ายเป็น Business Class ที่บินอยู่แล้ว
การแลกไมล์ผ่าน Qatar มีความพิเศษคือ ในบางเส้นทาง ถ้ามีการต่อเครื่องแล้วมี First Class ให้บริการบนขาที่สั้นกว่า สามารถเลือกเที่ยวบินที่สั้นกว่าเป็น First ได้ แต่ไม่สามารถเลือกกลับกันได้ ถ้าเกิดว่าขา BKK-DOH มี First Class ซึ่งก็มีแค่บน Airbus A380 เป็นหลัก เราสามารถทำทริกนี้ได้กับการบินไปแอฟริกาใต้และอเมริกาได้ทุกเส้นทาง (เพราะขาโดฮาไปอมเริกา จะไกลกว่ากรุงเทพไปโดฮาแน่นอน) ส่วนยุโรปจะได้แค่บางเมือง เช่น มาดริด แมนเชสเตอร์ ในขณะที่ลอนดอนทำทริกนี้ไม่ได้ครับ ซึ่งเพจใช้ไมล์เคยเขียนสรุปไว้ดีมาก ๆ ครับ
https://www.chaimiles.com/2023/03/How-To-Redeem-Qatar-Privilege-Club-Avios-Award-Ticket.html
ซึ่งจุดนี้เป็นข้อดีในการแลกบน Qatar ครับ ถ้าเราไปแลกบน British Airways ถึงแม้จะใช้ Avois เหมือนกัน แต่แถม First Class ไม่ได้
ถ้าแลก First Class BKK-DOH direct flight ก็จะใช้ 75,000 ไมล์ครับ
Layout
Qatar First Class บน A380 อยู่บน Upper Deck ด้านหน้าสุด มีทั้งหมด 8 ที่นั่ง มี 2 แถว จัดเรียงเป็น 1-2-1 ครับ กดดูผังที่นั่งได้ที่ Aerolopa https://www.aerolopa.com/qr-388
ด้านหน้ามีห้องน้ำ 2 ห้อง ซึ่งสองห้องนี้แทบจะเหมือนกัน ด้านหลัง First Class เป็นครัว และโซนหลังจากนั้นเป็น Business class ทั้งหมด
ส่วน Onboard lounge อยู่ทางตอนท้ายเครื่อง ถ้าจะไปนั่งเล่นที่ Lounge จะต้องเดินผ่าน Business Class ไปอีกทีนึง
Lounge
ประสบการณ์ของ First Class เริ่มต้นตั้งแต่ที่สนามบินโดฮา เราจะพาไปชม Lounge ของผู้โดยสาร First Class กัน
Lounge ชื่อ Al Safwa First Lounge ขึ้นบันไดเลื่อนจากน้องหมีขึ้นมาได้เลย
ทางเข้า Lounge ขึ้นบันไดเลื่อนมาก็เจอเลย
ตัว Lounge แวบแรกที่เห็นคือ เพดานสูงมากๆๆ เป็น Lounge ที่เพดานสูงที่สุดที่เคยไปมาเลยครับ ด้วยความสูง ทำให้ดูโปร่งมาก และการจัดบรรยากาศ จะรู้สึกเหมือนเดินอยู่ในพิพิธภัณฑ์เลย
Main hall
จะบอกว่ามันคือพิพิธภัณฑ์จริง ๆ ก็ใช่ครับ เพราะมีการแสดงภาพวาด และวัตถุโบราณด้วย รวมไปถึงน้ำตกที่อยู่ตรงกลาง Lounge ก็โดดเด่นและสวยมาก
น้ำตกใหญ่ ลงมาเป็นสาย ลงบนจานขนาดใหญ่ อลังการมาก ๆ ด้านขวาเป็นพื้นที่นั่ง
ชมตัวน้ำตกใกล้ ๆ
มีการจัดแสดงราวกับอยู่ในพิพิธภัณธ์เลย
ผู้โดยสาร First Class สามารถใช้บริการ Al Safwa First Lounge นี้ได้เลย ตอนแรกผมมาที่ Lounge ก็สังเกตว่ามีผู้โดยสารหนาแน่นพอสมควร ตอนแรกก็สงสัยว่าทำไมผู้โดยสารชั้นหนึ่งเยอะจัง ทั้งๆที่ A380 ก็มีแค่ 8 ลำ x 8 ที่นั่งต่อลำ ก็น่าจะมีผู้โดยสาร First แค่ 64 คน หรือไม่น่าเกิน 150 คนต่อวัน ถ้านับว่าเครื่องบิน บินไปกลับ และผู้โดยสาร arrival flight ก็ใช้ lounge นี้ได้ ก็ไม่น่าจะทำให้ lounge ดูมีคนเยอะมาก
มาถึงบางอ้อก็เพราะว่า ผู้โดยสารที่เป็น regional flight หรือเที่ยวบินระยะสั้นที่ใช้เครื่องลำเล็ก บางเที่ยวบินที่เป็นเส้นทางยอดนิยม จะเอาที่นั่ง Business Class มาขายและทำการตลาดเป็น First Class ด้วย ข้อมูลจาก One Mile at a Time
มาดูบรรยากาศใน Lounge ครับ
โซนทานอาหาร อลังการมาก และอาหารก็ดีมากเช่นกัน ระดับร้านอาหารดีๆ เลยครับ ดูเมนูอาหารได้ตาม link นี้ครับ
ของหวาน / ปลา seabass / และหอยเชลล์
นอกจากโซนนั่งที่เยอะมากพอ และโซน Dining แล้ว ในตัว Lounge ยังมี Working space ให้ด้วย และมี Spa (มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม)
Working space/Business center
ห้องอาบน้ำ จะอยู่ในสปา อยู่ใน treatment room อีกที แปลว่าถ้ามีลูกค้าสปาใช้งานอยู่ ห้องอาบน้ำจะลดลงไปหน่ึงห้อง
ห้องอาบน้ำ สบู่ ครีมต่างๆ ใช้ของ diptyque ทั้งหมด
และห้องอาบน้ำนี่เอง เป็นจุดที่ผมรู้สึกว่ายังไม่ค่อยดีเท่าไหร่ จำนวนไม่เพียงพอต่อความต้องการ ถ้ามาช่วงพีคๆ จะมีผู้โดยสารเยอะ และต้องรอคิว 1-2 ชั่วโมงเลยครับ การที่ lounge ระดับ First Class ยังต้องให้ผู้โดยสารรอห้องอาบน้ำ แสดงว่าการคาดคะเน capacity ยังทำได้ไม่ดีพอ
ถึงเวลา boarding แล้ว ไปขึ้นเครื่องกันดีกว่าครับ
การได้ boarding จากชั้นสอง เห็นวิวเครื่องเต็ม ๆ อลังการมาก น่าเสียดายถ้า A380 คงจะ fade out ไปจากหลาย ๆ สายการบินในอีกไม่นานนี้
Seat
อย่างที่กล่าวไปว่าที่นั่ง First Class บน A380 มี 8 ที่นั่ง ก็ถือว่าไม่น้อยเลย เดี๋ยวนี้หลายสายการบินลดจำนวน First Class Cabin เหลือแค่ 4-6 ที่นั่งต่อลำ เช่นของ Singapore Airlines บน A380 มีแค่ 6 ที่
มาดูกันครับว่าที่นั่งมี Feature อะไรบ้าง
ตัวเบาะมีขนาดใหญ่มาก นั่งสบาย ด้านบนซ้ายของตัวเบาะมีไฟส่องอ่านหนังสือได้
เนื่องจากเป็นที่นั่ง First Class รุ่นเก่าแล้ว เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2014 ซึ่งก็ถือว่าเป็น product ที่เก่ามากพอสมควร ที่นั่งไม่ได้เป็นแบบมีประตูปิดมิดชิด จึงไม่ได้มี privacy เทียบเท่ากับที่นั่ง First ของสายการบินคู่แข่งอย่าง Emirates, Singapore Airlines, Etihad เท่าไหร่
(แต่ที่นั่ง First ของการบินไทยที่รับมอบปี 2022 ก็ยังเป็นแบบไม่มีประตูนะครับ 55)
Flight วันนี้ มีผู้โดยสาร 6 จาก 8 ท่าน ก็ถือว่าเกือบเต็มเลย
ด้านหน้า จะเป็น ottoman สามารถให้เพื่อนมานั่งทานข้าวด้วยได้ มีเข็มขัดนิรภัยให้พร้อม
ด้านล่าง เป็นที่เก็บของ สามารถวางกระเป๋าเล็ก ๆ กระเป๋าเป้ได้ โดยไม่ต้องเก็บในที่เก็บของหลัก
ในเคบินนี้ไม่มีที่เก็บของเหนือศีรษะครับ ต้องฝาก cabin crew ไปเก็บในที่เก็บของอีกที่นึง
วางกระเป๋าใบเล็กของผมได้พอดี และเนื่องจากไม่มีที่เก็บของเหนือศีรษะ ทำให้เคบินดูโปร่ง และกว้างมาก พอเปิดไฟก็สวยกำลังดีเลยครับ
จุดที่ผมไม่ชอบเลยคือตำแหน่งปลั้กไฟ มันไปอยู่ข้างจอทีวี ทำให้เวลาจะเสียบชาร์จ ต้องปลดเข็มขัด และลุกไปเสียบปลั้ก
ส่วน feature ของ seat control มีมาครบ ทางด้านซ้ายและขวา
ด้านซ้าย (หรือฝั่งหน้าต่าง) มีปุ่มปรับม่านหน้าต่างอยู่ข้างโต๊ะ และปุ่มปรับเอน และตรงที่พักแขนเปิดได้ ด้านในมีรีโมทควบคุมหน้าจอความบันเทิงครับ แต่ลืมถ่ายมา 55
ทางด้านขวา ก้มีปุ่มปรับเอนแบบละเอียดขึ้น เรียกได้ว่า redundant กันสบายๆ เลย จะปรับมือซ้าย หรือมือขวา ก็สะดวก เข้าใจว่าฝั่งซ้ายจะปรับสะดวกกว่าเวลาตอนอยู่ในท่านอนครับ
ตรงที่รองแขน เปิดมาจะเจอแผงควบคุมอีกตัวนึง และช่องเก็บของ มีหูฟังให้
ในเที่ยวบินนี้มีหลายท่านนอนเลยตั้งแต่หลัง take off เลย ทำให้เคบินปิดไฟค่อนข้างเร็ว สามารถขอให้ลูกเรือมาทำเตียงได้เลย ใช้หมอนเดิมที่มีให้อยู่แล้วสองใบ มีผ้าห่มและผ้าปูเตียงเพิ่มให้
Bed mode
Service
ตอนแรกผมเองก็อ่านรีวิวมาล่วงหน้า มีหลายคนบอกว่า Qatar ไม่ค่อยได้ให้ความสำคัญกับ First Class มากนัก แต่จะพยายามผลักดัน QSuite ให้เป็น First in Business Class เสียมากกว่า โดยทำให้ QSuite มันดีมากๆ บริการจัดเต็ม บางที่บอกว่า First Class ก็แค่เป็น Business Class ที่เสิร์ฟคาเวียร์ และมี alcohol selection เพิ่มขึ้นเท่านั้น ชุดนอนกับ Amenity kit ก็คล้ายกัน ผมเองก็เลยทำใจมาก่อนแล้วระดับนึงครับ 55
แต่พอมาจริงๆ พบว่า เออ ก็ไม่ได้เป็นไปตามที่ทำใจมาก่อนหน้า เพราะ service ทุกอย่างมันดีหมด ลูกเรือก็เอาใจใส่มากๆ อาหารก็ดีกว่า
welcome drink ก่อนเครื่องออก สายไม่แอลกอฮอล์อย่างผม ก็น้ำเปล่าสิครับ 555 มี olive และชีสมาให้ทานคู่กัน ซึ่งก็ไม่ใช่แนวผมเช่นกัน
Amenity kit เป็นกระเป๋าหนังอย่างดี จากแบรนด์ Diptyque ซึ่งถ้าใครเคยนั่ง Business Class จะแจกเป็นกล่องกระดาษลายสวยๆ แทน
ชุดนอน ก็ใช้คนละตัวกับ Business Class
เมนูอาหารวันนี้
Appetizer ผมเลือกคาเวียร์ ส่วน main เลือก King Prawn และของหวานเลือกเป็น Pandan Ssago Mousse ซึ่งทุกอย่างดีมาก จัดจานสวย อร่อย ผ่านทุกอย่างเลยครับ
Cavier with Smoked Salmon
Pan-fried King Prawn with Lemon Butter Sauce
Pandan sago mousse with mango passion fruit compote
อันนี้ของแถม หลังจากงีบไปตื่นนึง ก็เลยลอง Warm open faced XO lobster sandwich สักหน่อย เคยสั่งตอนนั่ง business รอบนึงแล้วติดใจ แต่ผมว่าของ First จัดเต็มกว่ามาก
พาไปดูด้านหน้า Cabin บ้างครับ ด้านหน้าจะมีบันไดใหญ่ ไฟบนเพดานสวย ผมชอบลายบนผนังของ Qatar มากๆ เรียบหรู
บันไดด้านหน้า
ห้องน้ำสำหรับผู้โดยสาร First Class จะมีสองห้อง ซึ่งเหมือนกันทั้งสองห้อง
ห้องทางด้านขวา
และห้องทางด้านซ้าย ผมถ่ายมาให้ดูว่ามันเหมือนกันเป๊ะๆ จริงนะครับ ไม่ได้ flip เอา 555 อย่างของ Singapore Airlines จะไม่เหมือนกัน ห้องนึงจะใหญ่กว่านิดหน่อย
ที่นั่งด้านขวาสุด เปิดมาจะเป็นชักโครก
บทสรุป
Business Class ของ Qatar ว่าดีแล้ว มาเจอ First Class ของ Qatar ดีขึ้นไปอีก ลูกเรือน่ารักและเอาใจใส่ดีมากๆ จริงๆเที่ยวบินก่อนหน้าที่บิน QSuite ผมเจอลูกเรือที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่ของ First นั้นไม่มีที่ติเลย
ตัวที่นั่งนั้นเป็นแบบเก่า สู้ First เจ้าอื่นไม่ได้ ซึ่งผมคิดว่า Qatar ก็คงไม่เปิดตัว First Class product ตัวใหม่แล้ว เพราะดัน QSuite ดีกว่า แต่อย่างที่เหลือ ไม่ว่าจะเป็นอาหาร amenity kit ชุดนอน เครื่องนอน ดีเยี่ยมได้มาตรฐาน First ระดับโลกครับ ถือว่าคุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์ ทุกไมล์ที่จ่ายไป
แนะนำว่า ถ้าใครอยากลองสัมผัสประสบการณ์ First Class ลองถือโอกาสแลกไมล์โดยใช้ทริก Biz+First ในราคา Biz ดูครับ แต่ก็ต้องลุ้นหน่อยว่าจะโดน aircraft swap หรือเปล่า แค่ได้ไปชม Al Safwa Lounge ก็คุ้มแล้ว เพราะสถานที่ยิ่งใหญ่อลังการมากจริงๆ ช่วงนี้ Qatar นำ A380 มาบินที่เมืองไทย เท่าที่ผมเชคดู A380 ก็ยังมีตารางบินทุกวันจนถึงเดือนพฤษภาคมเลย ก็ถือเป็นโอกาสดีที่จะได้ลอง First Class บน A380 ก่อนที่หลาย ๆ สายการบินจะ fade เครื่องบินรุ่นนี้ออกไปครับ
ช่วงนี้ผมมีรีวิวเที่ยวบินค้างอยู่เยอะเลย รอติดตามนะครับ
พบกันใหม่รีวิวหน้า สวัสดีครับ
รีวิวนี้ถ่ายด้วยมือถือ Pixel 7 Pro ทั้งหมดครับ เดี่ยวนี้กล้องมือถือพัฒนาไปไกลจริงๆ
You must be logged in to post a comment.