เทศกาลชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ญี่ปุ่นใกล้เข้ามาอีกไม่ไกลแล้ว ช่วงกลางถึงปลายเดือนตุลา เป็นช่วงที่ดีมากสำหรับชมใบไม้เปลี่ยนสีตามแถบภูเขาหลายๆแห่งของญี่ปุ่น อาทิ Kamiochi Nagano สำหรับผม ปีที่แล้วผมได้มีโอกาสแวะไปดูใบไม้ที่แถบตอนเหนือสุดของ Tohoku มาครับ ซึ่งเส้นทางผมก็อ้างอิงจากน้องพูม ซึ่งเขียน Blog ไว้ละเอียดสุดๆ ทริปของผมปรับให้ยาวขึ้นเป็น 4 วัน 3 คืน และเพิ่มจุดหลายจุดที่ผมอยากแวะ
เส้นทางของผมประมาณนี้ครับ
วันที่ 1 บินไป Aomori รับรถเช่า แวะตลาดปลา และถ่ายภาพที่ Jogakura Bridge จนถึงเย็น และขับมานอนเมือง Towada
วันที่ 2 แสงเช้าที่ Tsutanuma ขับรถถ่ายภาพรอบๆ ขึ้น Hakkoda Ropeway ตีรถลงมา Oirase Stream และ Lake Towada ขับมานอน Hachimentai
วันที่ 3 ถ่ายภาพที่ฝาย จากสะพาน Mori no Ohashi Bridge จากนั้น ขับรถขึ้น Hachimentai Aspite Line ไปจบที่ Tamagawa Hot Springs นอนใกล้ๆ Nyuto Onsen
วันที่ 4 ชม Nyuto Onsen และทั้งวันไปเที่ยวน้ำตก Ninotaki และบินกลับจากสนามบิน Odate ช่วงเย็น และบินกลับไทยคืนนั้น ถึงกรุงเทพฯ ตอนเช้า
Day 1
Highlight สะพาน Jogakura
เราเดินทางถึงสนามบิน Aomori ราวๆเก้าโมงเช้า รับรถเช่า และเข้าไปหาอะไรทานกันในตัวเมือง ซึ่งแน่นอนว่าย่อมไม่พลาดที่จะแวะตลาดปลา Aomori Nokkedon 青森のっけ丼 จากที่อ่านรีวิว เราสามารถซื้อข้าวหนึ่งชาม และเดินไปทั่วตลาด เพื่อหาปลาที่ถูกใจมาโปะบนข้าวได้ตามใจ ซึ่งมันเป็นการกินอาหารกลางวันที่สนุกใช้ได้เลยทีเดียว เพราะหลังจากนี้เราจะเข้าป่าแล้ว คงไม่มีอะไรให้เลือกเยอะเท่าอยู่ในเมือง 55
การจะเจาะลึกบริเวณนี้ได้ทั่วๆ ผมแนะนำว่าต้องเช่ารถขับครับ เพราะจะทำให้เราคุมเวลาได้ และไปได้ทุกจุด ซึ่งการเช่ารถขับที่ญี่ปุ่นนั้นง่ายมากๆ จองได้กับเอเย่นต์ และคืนรถต่างที่ได้ ถ้าอยู่ในจังหวัดใกล้ๆกัน จะมีค่าคืนรถต่างที่เพิ่มขึ้นมานิดหน่อย แต่อย่าลืมใบขับขี่สากล (International Driving Permit หรือ IDP) นะครับ
ระหว่างรอเพื่อนๆมาถึง มีคนนั่งรถไฟ และอีกกลุ่มนั่งเครื่องตามมา เราก็เดินเล่นแวะใกล้ๆท่าเรือและสถานีรถไฟ จากนั้นค่อยมุ่งหน้ามายังสะพาน Jogakura ซึ่งเป็นเป้าหมายจุดถ่ายภาพพระอาทิตย์ตกในวันนี้ ขับรถประมาณ 40 นาทีเท่านั้น ช่วงแรกๆแถวเมือง Aomori ต้นไม้ข้างทางนั้นไม่ค่อยมีใบไม้แดงเลย บ้างยังไม่ค่อยเปลี่ยนสี บ้างก็ไม่เป็นแบบผลัดใบ แต่พอเริ่มเข้าเขตภูเขา ก็เริ่มมีใบไม้เปลี่ยนสีให้เห็น และเราเริ่มตื่นเต้นกับวิวสองข้างทาง ตอนแรกว่าจะแวะตรง Hakkoda Ropeway แต่ปรากฏคนเยอะมาก เลยข้ามไป 55 พอถึงสะพานก็เจอคนเยอะไม่น้อยทีเดียว แต่จุดถ่ายภาพสามารถกางขาได้ค่อนข้างมาก แต่พอช่วงเย็นๆนักท่องเที่ยวกลับกันเยอะแล้ว ถ่ายรูปกันสบายๆครับ แสงเย็นที่นี่ถ่ายย้อนแสงไป เห็นใบไม้เรืองแสง สวยมากๆ
ช่วงที่ผมมา วันที่ 20 ตุลาคม จุดนี้เริ่มโรยไปบ้างแล้ว
คืนนี้ผมพักในเมือง Towada ขับรถอีกประมาณ 1 ชั่วโมง ผมเลือกพักที่นี่เพราะจะได้มาถ่ายแสงเช้าที่ Tsutanuma ไม่ไกลมากครับ
Day 2
Highlight Tsutanuma Pond, Lake Towada, ถ่ายภาพน้ำตก unseen อย่าง Nishikimino Falls และ Choshi Falls
Tsutanuma Pond (蔦沼) เป็นจุดยอดฮิตมากๆ ทั้งคนญี่ปุ่น และนักท่องเที่ยวจะมากันแน่นขนัดจนลานจอดรถเต็ม ล้นไปถึงถนนด้านนอก หากอยากได้จุดถ่ายภาพดีๆจะต้องมารอตั้งแต่เที่ยงคืน ตีหนึ่ง มาตั้งขาตั้งกล้องจองไว้ก่อน สำหรับผม คิดว่ามันเป็นมุมค่อนข้างซูม เลยไม่ได้ดั้นด้นรีบมา 55 ค่อยๆมาหาจุดถ่ายเอาทีหลัง แต่เนื่องด้วยว่าวันนั้นเป็นวันเสาร์ และเป็นวันที่อากาศดีอีกต่างหาก คนเลยทะลักสุดๆๆ มีพี่ๆเล่าว่าก่อนหน้านี้ที่นี่ไม่ได้ฮิตเลย เพิ่งมาบูมช่วงปีหลังๆ จาก instagram นั่นเอง
บรรยากาศเวลาแสงแรงฉาบแนวไม้ริมทะเลสาบ สวยราวกับภาพวาด แต่ขอไปครั้งเดียวพอครับ คนเยอะจริงๆ 55
เนื่องจากวันนี้อากาศดีมาก ฟ้าใสเกินไป เลยทำให้ถ่ายภาพใบไม้เปลี่ยนสีได้ไม่สวยนัก ผมเลยตัดแพลน ขับรถเล่นแถวๆ ถนนสาย 103 จาก Tsutanuma เรื่อยไปจนถึง Jigokunuma Pond (地獄沼) หามุมถ่าย portrait ไปเพลินๆ สนุกดีครับ คนยังไม่ค่อยเยอะมาก รถจะเริ่มเยอะช่วงหลังสิบโมงครับ
Jigokunuma Pond (地獄沼)
ช่วงสายๆเลยแวะไปแก้มือที่ Hakkoda Ropeway (八甲田ロープウェー) ซึ่งเป็นกระเช้าขึ้นไปบนยอดเขา Hakkoda ซึ่งเมื่อวานได้ขับผ่านมา และก็ทำใจจากที่เห็นแล้วว่าใบไม้เลย peak แทบจะทั้งหมดแล้ว เลยไม่ได้รูปมาสักเท่าไหร่ และกระเช้าก็คิวยาวมากๆครับ เนื่องจากกระเช้ามีแค่ 2 ตัวเท่านั้น ต่อคิวขึ้นกระเช้าเกือบชั่วโมงเลยทีเดียว
ตอนบ่ายผมมุ่งหน้าลงไปที่ Oirase Stream เส้นทางถ่ายภาพยอดฮิตอีกเส้นนึง ถ้ามาช่วงปลายเดือนจะ peak กว่านี้ และก็จะเป็นช่วงที่ถนนปิดด้วยครับ ให้นั่งรถบัสเท่านั้น แต่ถ้ามาช่วงสัปดาห์ที่ 3 จะพอขับรถผ่านได้ ซึ่งถนนเส้นนี้จะถ่ายให้สวย ต้องอาศัยวันที่แดดไม่แรงมากครับ ไม่งั้น contrast จัดมาก วันที่ผมมา ฟ้าใสเกินไป เลยขับผ่านไปอย่างเร็ว 55 และนักท่องเที่ยวก็เยอะมากๆ จนรถติดเลยทีเดียวครับ มาเส้นทางยอดฮิตก็คงต้องทำใจ โดยส่วนตัวผมไม่ชอบเที่ยวตามจุดที่คนเยอะๆสักเท่าไหร่ คนเยอะแล้วจะถ่ายรูปไม่ค่อยออกครับ 55 ผมเลยข้ามไปแวะจุดชมวิว Lake Towada แทน
จุดชมวิวของ Lake Towada อันหลักที่มี Platform ชื่อ 瞰湖台 Kankodai แต่มุมไม่ค่อยเปิดสักเท่าไหร่ ให้ขับเลยทางใต้ไปอีก จะมีจุดที่เปิดกว่าครับ แต่ทางขึ้นจะหายากหน่อยเพราะไม่มีป้ายบอกทาง
Lake Towada 十和田湖
จุดที่ผมชอบที่สุดของวันนี้อยู่ที่น้ำตกสองแห่งที่อยู่ใกล้ๆกัน ขับรถเลยจาก Lake Towada มานิดหน่อย ข้ามฝั่งมาที่ Akita แล้วครับ ทั้งสองแห่งนี้รถถึงสบายๆ แทบไม่ต้องเดินเลยครับ เป็นน้ำตกเล็กๆที่ถ่ายรูปเพลินๆ น้ำตกแรกชื่อ Nishikimino Falls (錦見の滝) ที่ผมวางแผนว่าจะแวะมา ส่วนอีกแห่งคือ Choshi Falls (銚子の滝) ทีแรกผมไม่ได้ตั้งใจมา ขับรถไปดูเฉยๆ แต่กลับสวยกว่าเสียอย่างนั้น กลายเป็นสถานที่ๆชอบที่สุดของวันนี้ไปโดยปริยายเลย
ชื่อจะคล้ายๆกับ Choshio Falls 銚子大滝 ที่อยู่ตรง Oirase ครับ ขอบคุณน้องแพงที่ช่วยแปลชื่อญี่ปุ่นครับ
Nishikimino Falls (錦見の滝)
Choshi Falls (銚子の滝)
หมดวันที่สองไปอย่างรวดเร็ว ตอนแรกผมเล็งว่าจะไปที่ Fudō Falls 不動の滝 อีกแห่งนึงด้วย แต่ติดที่เสียเวลากับ Hakkoda Ropeway กับรถติดที่ Oirase เลยทำให้ไปไม่ทันครับ มองอีกอย่างก็ถือว่าเป็นเรื่องดีที่ทำให้ผมได้ถ่าย Choshi Falls ตอนที่แสงกำลังดีเลยครับ แดดร่มแล้ว contrast ไม่จัดเกินไป
จากนั้นเราก็ตีรถข้ามจังหวัดไปที่ Iwate ไปนอนที่ Hachimentai ขับรถอีก 1 ชั่วโมงครึ่งครับ
Day 3
Highlight Mori no Ohashi Bridge, Tamagawa Bridge
เหตุผลที่ผมเลือกมานอนที่ Hachimentai เพราะอยากมาถ่ายภาพที่ฝายเล็กๆที่มีน้ำสีฟ้าใส คู่กับใบไม้เปลี่ยนสี เป็นมุมที่ถ่ายจาก Mori no Ohashi Bridge (森の大橋) ตั้งใจมาถ่าย เคยเห็นภาพจากคนญี่ปุ่น และรูปใน Getty Images ทำให้อยากมามาก ซึ่งมุมนี้ถ่ายได้รอบทางเลยครับ ถ่ายไปทางฝายก็สวย ถ่ายไปทางปลายน้ำก็สวยเช่นกัน ผมได้จังหวะที่มาแล้วใบไม้แดงกำลังดีเลย
Mori no Ohashi Bridge
แพลนของวันนี้คือขับรถเส้น Hachimantai Aspite line 八幡平アスピーテライン ไปนอนที่ Semboku ในจังหวัด Akita แต่ปีนี้ใบไม้แถบนี้เปลี่ยนเร็ว ทำให้ใบไม้แดงในอุทยาน Hachimantai บนยอดเขานั้นแทบไม่เหลือแล้ว โรยแห้งไปหมด ผมเลยตีรถดิ่งไปที่ Tamagawa Hot Spring 玉川温泉 และ Tamagawa Onsen ซึ่งตรงทางเข้าจะมีจุดถ่ายรูปที่ถ่ายได้จากกลางสะพานข้ามแม่น้ำ Shibukuro River 渋黒川 มุมนี้น่าจะดังมาจาก blog ของน้องพูมนี่เอง พวกผมเลยรอจนถึงเย็น เพื่อถ่ายภาพแสงเย็นที่นี่กัน ซึ่งไม่ผิดหวังเลย
Tamagawa Onsen Bridge
จุดนี้จะอยู่ต่ำกว่า Hachimantai Aspite line ใบไม้เลยยังสวยอยู่ครับ
Day 4
Highlight Nino Falls
วันนี้เป็นวันที่ผมตั้งใจมากๆ เพราะอยากไปน้ำตก Nino Falls ที่ใฝ่ฝันมานาน อยู่ในจังหวัด Akita เช่นกัน ผมเห็นรูปน้ำตกนี้จากช่างภาพญี่ปุ่น และอยากมามากๆ แต่เนื่องด้วยว่ามันไกลจากจุดอื่นๆพอสมควร และเท่าที่หาข้อมูล ยังไม่เคยมีคนไทยมาเลย
ที่พักของผมนั้นอยู่ไม่ไกลจาก Nyuto Onsen มีที่พัก Tsuru no yu ชื่อดังมากๆๆ และจองยากมากๆๆ ผมเลยได้จองแต่ Ryokan ที่อยู่ด้านล่างลงไปหน่อย และถือโอกาสขับรถขึ้นไปชมในช่วงสายๆ ยอมรับเลยว่าที่นี่บรรยากาศดีมากจริงๆ โดยเฉพาะช่วงใบไม้เปลี่ยนสี และบ่อน้ำร้อนที่นี่น่าลงแช่มากๆ ถ้ามีโอกาสคงได้มาจองพักให้ได้ครับ
Tsuru no yu 乳頭温泉郷 鶴の湯温泉
ช่วงสาย เราขับรถตัดเลาะ Lake Tazawa ไป ไม่ได้แวะถ่ายรูปปั้นเลยครับ 555 ขับไปจนถึงเมือง Animatagi พอเข้าเขตภูเขาไป ถนนก็จะเริ่มเหลือเลนเดียว แถวนี้มีน้ำตกดังๆอยู่สองแห่งคือ Yasu-no-Taki Falls 安の滝 เท่าที่อ่านข้อมูลมา น่าจะเดินประมาณ 3 km ส่วนอีกจุดจะเป็นน้ำตก 3 อันเรียงกัน ชื่อง่ายมากๆคือเลข 1 2 ไล่ไปครับ 55 นั่นคือ Ichino Falls 一の滝, Nino Falls 二の滝 และน้ำตกสุดท้าย Kobee Falls 幸兵衛滝
เป้าหมายของผมอยู่ที่ Nino Falls 二の滝 จุดนี้ต้องเดินประมาณ 2 กิโล ซึ่งทางจากจุดจอดรถ ไปยังน้ำตกแรก ทางค่อนข้างราบ เดินแค่ 15-20 นาทีเท่านั้นเอง มุมมีไม่ค่อยเยอะครับ และตรงนี้แดดค่อนข้างแรง ตัวน้ำตกเปิดโล่ง ทำให้ contrast เยอะ ผมเลยบินโดรน แล้วเดินไปยังน้ำตกเป้าหมายของผม Nino Falls 二の滝 ครับ
Ichino Falls 一の滝
จากรูปจะสังเกตว่าน้ำตกขั้นแรกนั้นสูงใช่ย่อยเลยทีเดียว ใช่แล้วครับ ถ้าจะขึ้นไป Nino Falls ก็จะต้องเดินขึ้นชันดิกๆๆ เช่นกัน 555 ใช้เวลาเกือบ 45-60 นาที เหนื่อยใช้ได้เลย ไม่ได้เตรียมตัวมา และผมก็มาถึง Nino Falls ตามตั้งใจ
แต่น้ำน้อยไปหน่อย คาดว่าฝนไม่ค่อยตก เลยต้องใช้วิชามารเล็กน้อยครับ 55
Nino Falls 二の滝
พอจบจาก Nino Falls ค่อนข้างเกือบจะบ่ายแล้ว และการเดินไปน้ำตกตัดกำลังเราไปมาก คิดว่าถ้าไปน้ำตก Yasuno อาจจะกลับมาไม่ทันขึ้นเครื่องตอนเย็นที่สนามบิน Odate เราเลยเปลี่ยนโปรแกรมเล็กน้อย แวะไปที่ Ani Ski Resort (Mt. Moriyoshi) 森吉山阿仁スキー場 ซึ่งมีกระเช้าขึ้นไปชมบนยอดภูเขาได้ แต่ใบไม้ก็ไม่ค่อยเหลือแล้วครับ เนื่องจากความสูงไม่ค่อยต่างจาก Hachimantai Aspite line ใบไม้จึงร่วงแทบจะหมดแล้ว มีพอให้เห็นบ้างบริเวณตีนเขา ตอนที่เพิ่งขึ้นกระเช้าไปใหม่ๆ
ถือว่าการได้มาน้ำตก Nino Falls เป็นการปิดทริปได้ดีทีเดียว ถ้ามีโอกาสคงกลับมาแก้มือที่เส้นทางแถวนี้ใหม่อีกครั้ง และคงได้หาโอกาสไป Yasuno Falls และ Kobee Falls (น้ำตกที่สาม) ด้วย
จากตรง Mt. Moriyoshi ขับรถอีกแค่ 45 นาทีก็ถึงสนามบิน Odate ผมคืนรถที่นี่ และบินตรงไป Haneda เพื่อต่อเครื่องกลับไทยในคืนนั้นเลย เวลาไปเที่ยวญี่ปุ่น ผมชอบกลับจาก Haneda เพราะจะมี red-eye flight ถึงไทยตอนตีห้า กลับบ้านอาบน้ำ มาทำงานต่อได้เลย
มาดูภาพสรุปของเส้นทางกัน
ขอบคุณที่ติดตามชมครับ รออ่าน trip review ต่อๆไปได้ ช่วงนี้ผมห่างหายจาก blog ไปมาก จะพยายามเขียนให้มากขึ้นนะครับ
You must be logged in to post a comment.