วันนี้ผมอยากมาเขียนสรุปทริปไอซ์แลนด์ที่ผมมีโอกาสไปมาทั้งสองครั้งนะครับ และทั้งสองครั้งผมก็ใช้วิธีการเช่า camper van เพื่อให้มีความยืดหยุ่นในการเดินทาง เพราะเราไม่รู้เลยว่า อากาศจะเปิดตรงไหน แสงเหนือจะมาตรงไหน หากเรายืดหยุ่นได้ โอกาสได้แสงเหนือก็มีมากครับ สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับการเช่า campver van อ่านได้ที่ link นี้ครับ และผมก็เขียน blog เกี่ยวกับการล่าแสงเหนือ และการถ่ายภาพแสงเหนือไว้เช่นกัน
สรุปง่ายๆว่า ทริปทั้งสองครั้ง ผมไม่มีแพลน ไม่มี itinerary อะไรทั้งสิ้นครับ ให้ทริปมันขึ้นอยู่กับสภาพอากาศทั้งหมดเลย และความยากมันอยู่ตรงที่เราต้องมีความพร้อมในเรื่องข้อมูลสถานที่ และเส้นทางให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ครับ ช่วยกันตัดสินใจหลายๆคน ทั้งสองทริป ก็มีสมหวังได้แสงเหนือบ้าง และไม่สมหวังที่ไม่ได้แสงเหนือใน location ที่อยากได้
Kirkjufell
และใน blog นี้ผมก็จะสรุป list ของสถานที่ที่ผมไปมา เรียงตามความชอบเลยนะครับ ถ้าได้ไป ผมก็เชียร์ให้ไปรอบทั้งเกาะเลยนะครับ พวกแพคเกจทัวร์ที่ชอบขายกัน ส่วนมากจะพาเที่ยวแค่รอบๆเมืองหลวง ซึ่งความสวยงามมันแค่ 10% ของที่เห็นทั้งหมดทั้งเกาะเองครับ โดยเฉพาะ blue lagoon ที่ทัวร์ชอบลง ความเห็นส่วนตัวผม ผมว่าไม่คุ้มที่จะไปครับ แพงด้วย ไปรอบเดียวให้รู้ก็พอ 55
หากใครอยากได้ข้อมูลที่ครบเครื่อง ผมแนะนำ ebook เล่มนี้ ของ Sarah Marino และ Ron Coscorrosa รายละเอียดแน่นมากๆครับ คุ้มค่า
อ้อ ใน list นี้ไม่รวมโซนตรงกลางประเทศซึ่งเป็น highland สามารถเที่ยวได้เฉพาะหน้าร้อนนะครับ ผมไม่เคยหาข้อมูลเลย เพราะไม่มีโอกาสได้มาหน้าร้อนสักที
- Kirkjufell
เป็น location ที่ผมอยากได้แสงเหนือมากที่สุด (คิดว่าช่างภาพทุกคนก็คิดตรงกัน) แต่ผมมาที่นี่สามครั้ง ไม่มีดวงสักครั้งเลยครับ อากาศแย่ตลอด Kirkjufell จริงๆแล้วเป็นชื่อภูเขา อยู่ทางด้านตะวันตกของเมือง Grundarfjörður ซึ่งอยู่ทางตะวันตกของเกาะ เดินทางไม่ยากครับ ทางลาดยางตลอด มีแค่ช่วงสุดท้ายตรงที่เลี้ยวเข้าไปถ่ายน้ำตกเล็กๆที่ชื่อ Kirkjufellfoss นั้นจะเป็นทางลูกรัง น้ำตกมีสองชั้น สวยทั้งสองชั้นครับ มัน photogenic มากๆ - Jökulsárlón
มันคือทะเลสาบที่เกิดจากการละลายของธารน้ำแข็งหลายสายที่มีปลายทางรวมกัน อยู่ทางด้านตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะ หากมองจากริมทะเลสาบก็จะเห็นก้อนน้ำแข็งมากมายลอยอยู่ และก็จะมีแมวน้ำชอบมานอนเล่นอยู่บนก้อนน้ำแข็งด้วยครับ ถ้าไปตรงหาดที่อยู่ริมทะเล ก็จะได้ภาพชายหาดน้ำแข็งที่โด่งดังเพราะก้อนน้ำแข็งสีฟ้ามันตัดกับหาดทรายสีดำได้อย่างทีเลยเชียว - Vestrahorn
อยู่ทางด้านตะวันตกเฉียงใต้เช่นกัน (อยู่ทางตะวันออกของเมือง Höfn) ขับจาก Jökulsárlón ไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง เลี้ยวขวาตรงทางแยกก่อนเข้าอุโมงค์ เป็นภูเขาริมทะเลที่รูปทรงสวยมากๆ และมีฉากหน้าเป็นเนินทราย ถ้ามาช่วงน้ำขึ้นจะได้เงาสะท้อนด้วยครับ เส้นทางช่วงสุดท้ายต้องระวัง หากน้ำขึ้น ไม่ควรจอดให้ตกถนนมาก เพราะทรายอาจจะเปียก และทำให้รถติดหล่มได้ - Bruarfoss
น้ำตกสีฟ้าซึ่งเกิดจากธารน้ำแข็ง เป็นน้ำตกลึกลับ ไม่มีป้ายบอกทาง ต้องขับรถผ่านหมู่บ้านคน และจอดในหมู่บ้านครับ หาที่หลบจอดดีๆ ตัวน้ำตกนั้นเล็ก แต่สวยมากๆ ประกอบไปด้วยขั้นเล็กๆมากมาย (ดูภาพปกด้านบนสุดได้ครับ) รายละเอียดการเดินทางก็ตามเวบนี้เลยครับ น้ำตกนี้เป็นน้ำตกที่ผมชอบที่สุดในไอซ์แลนด์ครับ highly recommended มากๆ - Skógafoss
location นี้ไม่มีทางหลงแน่นอน เพราะอยู่ริมถนนเส้น ring road (route 1) และเป็นน้ำตกที่ใหญ่มาก มาแล้วต้องถ่าย profile picture คู่กับม่านน้ำที่ใหญ่มากๆ ตัวน้ำตกอยู่ทางด้านใต้ของเกาะ ขับไม่ไกลจากเมืองหลวง ด้านข้างน้ำตกจะมี trail ขึ้นไปชมวิวด้านบนได้ - Goðafoss
น้ำตกแห่งพระเจ้า (ตามชื่อ) เป็นน้ำตกชื่อดังรูปเกือกม้า อยู่ทางตอนเหนือ ประมาณ 40km จากเมือง Akureyri (เมืองใหญ่สุดทางตอนเหนือ) มีจุดชมวิวอยู่หลายมุม ทั้งฝั่งตะวันออก และฝั่งตะวันตก รวมไปถึงตีนน้ำตกด้วยครับ ใกล้ๆน้ำตกมีปั้ม N1 บริการ - Öxarárfoss
เป็นน้ำตกที่อยู่ตรงรอยแยกที่เป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างแผ่นดินยุโรปและอเมริกา ซึ่งก็อยู่ในอุทยานแห่งชาติ Þingvellir เดินทางมาไม่ยาก ผมว่าเป็น location นึงที่ถ่ายแสงเหนือได้สวยทีเดียว - Seljalandsfoss
เป็นน้ำตกไม่กี่แห่งในไอซ์แลนด์ที่สามารถเดินไปด้านหลังน้ำตกได้ ช่างภาพส่วนมากจะมาถ่ายพระอาทิตย์ตกที่นี่ เพราะพระอาทิตย์จะทำมุมพอดี อยู่ใกล้ๆกับ Skógafoss ถ้ามา Skógafoss แล้ว ก็ไม่ควรพลาดที่นี่ครับ - Hvítserkur
หินรูปไดโนเสาร์ อยู่ทางตอนเหนือ แต่หากมาจาก Reykjavik ก็ไม่ไกลมาก ประมาณสี่ชั่วโมงเศษๆ ทางลงจะเป็นหน้าผา ค่อนข้างชัน แต่ถ้าได้ลงมาในช่วงน้ำลงจะสวยมากๆ เพราะจะเห็นสันดอนทรายสวยๆเป็น foreground - Svartifoss
น้ำตกที่อยู่คู่กับแท่งหินลาวาที่ผมคิดว่ามันช่างเข้ากันมากๆ อยู่ใกล้กับเมือง Skaftafell ทางตอนใต้ หากมา Jökulsárlón แนะนำให้แวะครับ เดินประมาณ 1 km ขึ้นเขานิดหน่อย แต่คุ้มเหนื่อยครับ - Hraunfossar
น้ำตกที่ประกอบด้วยสายน้ำเล็กๆหลายสายที่ไหลมาจากธารน้ำแข็ง แต่เอกลักษณ์อยู่ที่สายน้ำเหล่านี้ไหลมาจากโพรงน้ำใต้ดิน ทำให้ดูเหมือนน้ำตกไหลออกมาจากผิวดิน - Lava field
อยู่ระหว่างเมือง vik กับ skaftafell เป็นทุ่งหินลาวาที่มีมอสปกคลุม ขับรถมาเหนื่อยๆ ออกไปเดินเล่นสัมผัสมอสเขียวๆด้วยเท้าเปล่า แล้วจะรู้ว่ามอสมันนุ่มกว่าพรมหลายสิบเท่าตัวเลยครับ - Strokkur
น้ำพุร้อน พุ่งทุกๆ 10 นาที เดินทางง่ายมาก อยู่ในเมือง Geysirใกล้กับ Gullfoss - Gullfoss
น้ำตกดังในโซน golden circle เป็นเป้าหมายหลักๆของนักท่องเที่ยวที่มาระยะสั้นๆ เพราะเดินทางมาไม่ยาก แต่ผมไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่ - Vik Church
โบสถ์ชื่อดังของเมือง ในช่วงเข้าหน้าร้อนจะมีทุ่งดอกลูปินอยู่หน้าโบสถ์ - Reynisdrangar
กองหินกลางทะเล มองเห็นได้จากเมือง vik แต่ถ้าจะเข้าไปใกล้ๆต้องมาจากถนนที่อยู่อีกฝั่ง (หากมาจาก Reykjavik ทางแยกจะอยู่ก่อนถึง vik) - Dyrholaey
เป็น arch กลางทะเล อยู่ใกล้เมือง vik สามารถชมได้จากจุดชมวิวที่อยู่ริมหน้าผา ลมแรงมาก ในช่วงหน้าร้อนอาจจะเห็นนกพัฟฟินได้ที่นี่ครับ
สำหรับสถานที่ที่ผมไม่ได้ไป แต่น่าแวะมากๆ ถ้ามีโอกาสก็ลองไปดูนะครับ
- Detifoss/Selfoss
สองน้ำตกใหญ่ทางตอนเหนือที่อยู่ติดๆกัน Detifoss เป็นน้ำตกที่มีพลังที่สุดในยุโรป และเป็นฉากเปิดของหนังเรื่อง Prometheus ส่วน Selfoss ก็เป็นน้ำตกที่ประกอบด้วยสายน้ำเล็กๆหลายสาย ไหลลงแม่น้ำทางด้านข้าง - Vatnajökull Glacier
ธารน้ำแข็งใหญ่ทางตอนใต้ มีทัวร์เข้าถ้ำน้ำแข็งในช่วงหน้าหนาว (ดูรายละเอียดด้านล่าง) สามารถติดต่อทัวร์ได้จากเมือง Skaftafell - Dynjandi
น้ำตกใหญ่ในโซน Westfjord ค่อนข้างไกล และขับรถนาน แต่ลักษณะน้ำตกเป็นขั้นเล็กๆมากมาย - Litlanesfoss
เป็นน้ำตกสองชั้น อยู่ท่ามกลางแท่งหินลาวา - Aldeyjarfoss
เป็นน้ำตกที่สวยอีกอัน ขับรถต่อจาก Goðafoss ลงมา แต่ต้องใช้รถ 4WD - Gljúfurárfoss
อยู่ใกล้ๆ Seljalandsfoss เลยครับ มีน้องคนไทยไปมา สวยมากๆ เป็นน้ำตกที่ซ่อนอยู่ในช่องเขา - Plane crash site
ซากเครื่องบิน DC-3 ที่ลงจอดฉุกเฉินตอนสมัยปลายปี 1973 อยู่กลางหาดทรายดำ แต่ตอนขับรถเข้าไปต้องระวังรถติดหล่ม - Kleifarvatn
ทะเลสาบใกล้เมือง Reykjavik ช่างภาพนิยมมาถ่ายแสงเหนือกัน
Hvítserkur
สำหรับรายละเอียดปลีกย่อยอื่นๆในไอซ์แลนด์ ผมสรุปคร่าวๆให้ตามนี้ครับ
เงิน
ใช้สกุลเงินโครนา (ISK) สามารถแลกเงินสดได้ที่สนามบิน KEF แต่ไม่มีความจำเป็น เพราะร้านค้าเกือบๆ 100% รับ credit card ทั้งหมด หากเลือกใช้ credit card ที่ไม่มี foreign transaction fee จะได้เรทของธนาคาร อาจจะดีกว่าเรทที่สนามบิน
มือถือและ internet
หลักๆแล้วถ้าอยู่ในเมืองหลวง ซื้อของ Siminn (ของเจ้าอื่นก็มีครับ แต่ผมว่าเจ้านี้เครือข่าวครอบคลุมดีที่สุด) ได้ที่ Kringlan Mall สำหรับ internet sim เท่านั้นอยู่ที่ 5Gb 2190 ISK ผมคิดว่า coverage ดีทีสุดครับ ปั้มน้ำมัน N1 ส่วนใหญ่มี free wifi ส่วนถ้าอยากใช้เป็น wifi router ก็มีครับ ใช้ของ Trawire เป็น unlimited 3G/4G วันละ $10 เท่านั้นเอง แบ่งกันใช้บนรถได้สบายๆครับ เขาใช้ simcard ของ Siminn ด้วย ฉะนั้นมั่นใจในเครือข่ายได้เลย
ซื้อของ
ใน Reykjavik ให้ซื้อที่ Kringlan Mall, ที่อยู่: Kringlan 51-69 103 Reykjavík, Iceland (coordinates 64°07’48.6″N 21°53’38.9″W) ถ้าอยู่นอกเมืองหลวง จะมีร้านหลักๆคือ Hagkaup, Bónus และ Netto โดยซื้อตามsupermarket ราคาจะถูกกว่าตามปั้มพอสมควร แนะนำให้ซื้อทีเดียวตาม Super เลย แต่สิงห์นักดื่มทั้งหลายอยากดื่มเบียร์ ตามซุปเปอร์มาร์เกตจะมีขาย แต่ว่าแอลกอฮอล์จะไม่สูงมาก ถ้าเป็นเบียร์ก็เบียร์อ่อนๆ ถ้าอยากจัดหนักจริงต้องไปร้าน vinbudin ครับ เป็นร้านขายแอลกอฮอล์โดยเฉพาะ แต่มักมีเวลาเปิดปิดที่สั้นมากๆ บางทีเปิดเที่ยง บ่ายสามแม่งปิดละ ฮ่าๆๆ
เมืองเล็กๆบางเมือง ปั้มน้ำมันบางก็มีขายแทบจะทุกอย่าง เพราะเหมือนเป็นศูนย์กลางความเจริญของเมือง อย่างเช่นที่เมือง Grundarfjörður มีปั้ม N1 ที่ข้างในเป็นซุเปอร์มาร์เกต ขายตั้งแต่เนื้อสัตว์ ผักผลไม้ ถังแก๊สหุงต้ม เรื่อยไปจนถึงยางรถยนต์
อาบน้ำ (สำหรับคนเช่า camper van)
แต่ละเมืองจะมีสระว่ายน้ำ ค่าบริการประมาณ 200-500 โครน ขึ้นอยู่กับว่าจะอาบน้ำอย่างเดียว หรือแช่สระน้ำอุ่นด้วย ดูใน list เลยครับ
ปั้มน้ำมัน
เจ้าหลักๆมีสองเจ้าคือ N1 (สีแดง) และ Olis (สีเขียว) ส่วนมากนักท่องเที่ยวจะเติม N1 มากกว่า และสามารถซื้อบัตร prepaid เติมน้ำมันได้ มูลค่ามากสุด 10000 โครน เผื่อไว้เติมน้ำมันในช่วงเวลาหลังให้บริการ ปั้มส่วนมากจะไม่มีพนักงานประจำหลังสี่ทุ่ม หรือเผื่อสำหรับปั้มที่อยู่ห่างไกล มีแต่ self service
ถ้ำน้ำแข็ง
ถือว่าเป็น highlight ของคนที่สนใจมาไอซ์แลนด์หน้าหนาวเลยก็ว่าได้ ปกติทัวร์จะมีตั้งแต่ November-March แต่ช่วงต้นเดือนเมษา condition อาจจะพอไหว ถ้าอากาศยังไม่อุ่นจนเกินไป ต้องลองเชคกับทางไกด์ว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่ ปี 2013-2014 ถ้ำสวยมากๆ โดยเฉพาะ Crystal Ice Cave และ Waterfall Ice Cave ตอนนี้ season หมดแล้ว ต้องรอลุ้นปลายปีนี้
รวมรายชื่อบริษัททัวร์
เที่ยวให้สนุกครับ ไอซ์แลนด์ไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่นอน และก็อย่าลืมถ่ายม้าสุดหล่อ ทรงผมเกาหลี ไม่งั้นถือว่ามาไม่ถึงนะครับ 5555
You must be logged in to post a comment.