สวัสดีครับ
หลายๆคนอาจจะเคยอ่าน blog การเดินทางท่องเที่ยวในอเมริกาของผมมาแล้วใน blogspot แต่ผมเองก็ร้างลาการเขียนไปนานแล้ว ด้วยเหตุจากงานวิจัย(และการเที่ยว)ที่รัดตัว ผมตั้งใจว่าไหนๆก็มีเวบเป็นของตัวเองแล้วก็คงจะใช้โอกาสนี้เล่ารายละเอียดสถานที่เที่ยวให้ได้มากที่สุดครับ วันนี้ผมเอา hiking trail ที่เป็นที่นิยมมากๆอันนึงของอเมริกา นั่นก็คือ….
The Narrows นั่นเองครับ
The Narrows อยู่ที่ Zion National Park ทางตอนใต้ของรัฐ Utah ครับ The Narrows เป็น trail ที่มีลักษณะตามชื่อเลยครับ ลักษณะเป็นโตรกผาแคบมากๆซึ่งเกิดจากแม่น้ำกัดเซาะ ส่วนที่เราเดินก็คือด้านล่างสุดของโตรกนั่นเอง และแน่นอนว่าก็ต้องเดินลุยน้ำไปตลอดเส้นทางครับ เหมือนเดินอยู่ในแม่น้ำเลยทีเดียว เมื่อเราเดินอยู่ในแม่น้ำและอยู่ในโตรกผาแคบ สิ่งที่ต้องระวังอย่างมากถึงมากที่สุดก็คือ flash flood หรือว่าน้ำป่านั่นเองครับ น้ำป่าใน the narrows นี้เกิดได้ง่ายมาก เพราะเราอยู่ตรงทางน้ำออกพอดี หากมีฝนตกและน้ำไหลลงมามากจากทางต้นน้ำ น้ำจะระบายออกเร็วมากเนื่องจากโดยรอบไม่มีพื้นที่ซับน้ำเลยครับ ทางอุทยานจะมีระเบียบว่าหากความเร็วของน้ำมากกว่า 120 cubic feet per second (cfs) หากในรอบ 24 ชั่วโมงมี flow มากกว่านี้ trail จะปิดไม่ให้เดินครับ (ช่วงหลังมีข่าวว่าปรับ threshold เป็น 140 cfs แล้ว แต่ผมยังไม่ได้เชครายละเอียดโดยตรงกับทางอุทยานครับ)
สำหรับการเชคความเร็วของน้ำ สามารถดูได้จากเวบไซท์ของ USGS ครับ
http://waterdata.usgs.gov/ut/nwis/uv?cb_00060=on&cb_00065=on&format=gif_stats&site_no=09405500
ผมไป Zion มาแล้วหลายครั้ง แต่มีโอกาสเข้าได้เพียงสองครั้ง นั่นคือเดือนพฤศจิกายน 2011 และ 2012 ครับ น้ำในแต่ละปีโดยมากจะแรงช่วง Spring คือเดือนเมษายนถึงเดือนมิถุนายน เพราะฝนตกมาก หน้าร้อนก็สามารถเข้าได้ แต่คนจะเยอะ ผมเลือกไปช่วงฤดูใบไม้ร่วง ในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนจะมีใบไม้เปลี่ยนสี เหมาะแก่การถ่ายภาพมากๆครับ แต่ข้อเสียคืออุณหภูมิน้ำที่เราจะต้องลุยแม่น้ำนั้นเย็นมากๆ ประมาณ 40F หรือต่ำกว่า 5 องศาเซลเซียสครับ เกือบๆจุดเยือกแข็งเลยทีเดียว การที่จะลุย the narrows ในเดือนพฤศจิกายนนี้ ผมแนะนำว่าควรเช่า drysuit จากร้านเช่าอุปกรณ์ในเมือง Springdale ครับ ผมใช้บริการของ Zion Adventure Company เป็นหลักครับ การมี drysuit จะทำให้ตัวเราไม่เปียกเลย เมื่อไม่เปียก ก็จะไม่หนาวมากครับ ค่าเช่า $55 ต่อวัน แต่คุ้มค่าคุ้มราคามากครับ drysuit เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลย หากอุณหภูมิน้ำเย็นมากๆครับ
ผมแสดงกราฟในช่วงที่ผมเข้า the narrows ในปี 2011 จะเห็นว่าน้ำแรงเกือบๆ 110 cfs ตลอดช่วงเวลาที่ผมไป zion เลยครับ เหลืออีกแค่ 10 cfs ก็จะถึง limit ของทางอุทยานที่จะปิด trail ทีเดียว ซึ่งในปี 2011 นั้น การ hike ใน the narrows เป็นไปอย่างยากลำบากมากๆครับ น้ำแรงมาก นอกจากอุณหภูมิน้ำจะเย็น และน้ำลึกมากๆ ระดับลึกสุดที่ลุยลงไปเกือบๆจะถึงอกครับ และยังจะต้องระวังทุกย่างก้าวไม่ให้ตัวลอยไปตามกระแสน้ำอีก ปีนี้ผมใช้เวลาไปมาก และไปถึง Wallstreet ซึ่งเป็นส่วนที่สวยที่สุดไม่ทันช่วงเวลาแสงสวยครับ ใช้เวลาไปมากกว่าสามชั่วโมง กับระยะทางเดินประมาณสองไมล์ครับ
ส่วนด้านบนนี้เป็นกราฟจากปีนี้ครับ (2012) ผมเข้า the narrows วันที่ 11 พย.ครับ ซึ่งดูแล้วความแรงอยู่แค่ 50 cfs เท่านั้นเอง ขอบอกว่าปีนี้เดินง่ายมากๆ ผมใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมงก็เดินไปถึง wallstreet แล้วครับ ที่เห็นเป็น peak สองโหนกในวันที่ 9 และ 10 พย นั้นเกิดจากฝนตก และอาจจะร่วมด้วยหิมะละลาย ช่วงก่อนผมไป พยากรณ์อากาศบอกว่าพายุจะเข้า และทำให้เกิดฝนตกวันที่ 8 และ 9 ส่วนหิมะตกวันที่ 10 พย ครับ ทางผมเองก็ลุ้นมากๆว่าระดับน้ำจะแรงหรือเปล่า และมันก็แรงจริงๆด้วยครับ วันที่ 9 นั้นความแรงพุ่งไป 200 cfs เลย ส่วนมากกราฟจะพุ่งขึ้นทันทีช่วงหลังฝนตก หากเป็นหิมะตกนั้นก็จะช้ากว่านิดนึง ขึ้นอยู่กับว่าอุณหภูมิสูงขึ้นและทำให้หิมะละลายมากขึ้นหรือไม่ บางทีในช่วงกลางวัน แดดแรง หิมะจะละลาย เราก็มีโอกาสพบว่าตอนช่วงบ่าย กราฟของความแรงน้ำจะสูงขึ้นครับ
ก็ถือว่าการเดิน the narrows ต้องอาศัยดวงมากที่เดียว ปัจจัยเรื่องอากาศมีผลมากๆ และความปลอดภัยเป็นเรื่องสำคัญที่สุดครับ หากมีน้ำป่าขณะเราอยู่ใน the narrows แล้วเราจะไม่มีทางหนีเลย เพราะว่าสองข้างนั้นเป็นโตรกผาสูงเท่านั้น ถือว่าผมโชคดีมากที่หิมะที่ตกวันที่ 10 พย.นั้นไม่มีผลให้กระแสน้ำแรงขึ้นในวันที่ 11 พย. ที่ผมตัดสินใจเข้า the narrows ครับ อันที่จริงตอนเช้าวันที่ 11 ผมก็เปิดดูความแรงของน้ำก่อนตัดสินใจเข้าครับ หากระดับน้ำไม่สูงมาก ไม่ต้องลุยระดับอก เช่าแค่ drypants ก็เพียงพอครับ ไม่ต้องเช่า drysuit ก็ได้ แต่ผมเองก็เช่าไปเผื่อไว้ กลัวว่าหากลื่นล้ม หรือตกลงไปในแม่น้ำ ก็จะไม่ต้องเปียกทั้งตัวครับ
สำหรับการ hike ใน the narrows ก็ไม่ยากครับ ไม่มีทางหลงแน่นอน ระยะทางก็ขึ้นอยู่กับคน hike เองว่าจะไปไกลแค่ไหน รูปแบบการ hike ที่นิยมมากก็คือ bottom-up hike ก็คือการเริ่มเดินทางด้านทางทิศใต้ ปลายน้ำ และย้อนแม่น้ำขึ้นไป หากพอใจแล้วก็เดินกลับครับ อย่างที่เกริ่นไปว่าส่วนที่สวยที่สุดของ the narrows นี้ชื่อว่า wallstreet ครับ แต่ไม่เหมือน wallstreet ที่ new york นะครับ ลักษณะก็ตามชื่อถนนกำแพงเลย 55 ก็คือเป็นเส้นทางแคบๆที่ล้อมไปด้วยกำแพงหินสูงราวๆร้อยเมตร ก็สูงราวๆตึกสามสิบชั้นเลยทีเดียวครับ ส่วนที่เหลือของ the narrows จะมีความกว้างมากกว่านี้ และ Wallstreet จะดูอลังการมากๆและแปลกมากๆครับ
ถ้าดูจาก map ด้านบน เราก็จะต้องเริ่มเดินกันที่ Temple of Sinawava และเดินไปตาม Riverside Walk trail ประมาณ 1 ไมล์ จนถึงสุดทาง ก็จะถึงจุดที่ต้องข้ามลำธาร นั่นคือ Gateway of the narrows หรือจุดที่เริ่ม the narrows trail อย่างเป็นทางการครับ (ฟังดูดีมาก ฮาๆๆ) และจาก Gateway ไปถึง Wallstreet จะใช้เวลาหนึ่งชั่วโมงครึ่งถึงสามชั่วโมง ขึ้นอยู่กับความแรงของน้ำ และความเร็วในการเดินของแต่ละคนครับ ส่วน Wallstreet นั้น highlight ด้วยสีเหลืองในแผนที่ครับ ส่วนมากเราก็จะ hike กันจนถึงจุดที่เขียนว่า the end of wallstreet เพราะถ้าเลยจากนี้ไป ส่วนของ the narrows ก็จะเปิดกว้างอีกครั้ง และก็จะไม่ดูแปลกตาเท่ากับ wallstreet ครับ ส่วนมากไม่ค่อยมีคนไปเดินทาง orderville canyon เท่าไหร่ เนื่องจากเดินยากกว่า ต้องปีนป่ายเยอะกว่าครับ
แผนที่ฉบับเต็มสามารถ download ได้จาก Zion Adventure Company ครับ
สำหรับการถ่ายภาพ ผมคิดว่าไม่มีช่างภาพไทยคนไหนเคยรีวิวจุดถ่ายภาพไว้เลย ผมขอใช้โอกาสนี้ (พูดเหมือนนายก 555) ช่วยรวบรวมข้อมูลไว้สำหรับผู้ที่ต้องการไปถ่ายภาพนะครับ ข้อมูลทั้งหมดผมได้มาจากประสบการณ์การทดลองไปของผมเอง และจากการได้คุยกับช่างภาพฝรั่งที่เจอกันใน the narrows ครับ
ใน the narrows นั้น เนื่องจากเป็นโตรกผาแคบ โอกาสแสงที่จะส่องลงมาถึงด้านล่างนั้นมีเพียงแค่ช่วงใกล้เที่ยงเท่านั้น แต่แสงที่สวยที่สุดไม่ใช่ช่วงเที่ยงที่พระอาทิตย์ตรงหัวครับ แต่เป็นช่วงที่พระอาทิตย์ทำมุมเล็กน้อยกับหัวเรา ซึ่งด้วยมุมนี้ แสงจะสะท้อนกับผนังหินสูงชันของ the narrows โดยเฉพาะใน wallstreet section ได้อย่างพอดี เกิดเป็นแสงสะท้อนที่เรียกว่า reflected light ซึ่งทำให้ผนังที่แดงอยู่แล้ว กลายเป็นแสงสีส้มทองขึ้นมาครับ ซึ่งหากได้แสงเหล่านี้แล้ว จะทำให้ภาพโดดเด่นขึ้นมากครับ และเคล็ดลับของการหามุมถ่ายภาพจะอยู่ที่การ balance ระหว่างสายน้ำจากการเปิดชัตเตอร์เป็นเวลานาน และผนังสีส้มด้านหลัง แต่อย่าลืมว่า ไม่ควรถ่ายติดส่วนอื่นที่สว่างกว่าผนัง เช่น ท้องฟ้า หรือแสงอาทิตย์ตรงๆนะครับ เพราะท้องฟ้านั้นมีความต่างแสงจากผนังอยู่มาก จะทำให้ภาพมีส่วนที่ขาวเกินไป และกลบความสวยงามของ reflected light ไปได้ครับ ถ้าเป็นไปได้ ก็หามุมที่ติดแต่ reflected light บนผนังอย่างเดียว และเลี่ยงท้องฟ้าออก จะ crop ทิ้งก็ได้ครับ จะสวยกว่ามากทีเดียวครับ สำหรับจุดหลักๆในการถ่ายภาพ จะมีสี่ห้าจุดครับ
1) จุด 200′ waterfall จุดนี้จะเป็นจุดที่แม่น้ำโค้ง และเห็นต้น cottonwood สามสี่ต้นเรียงรายอยู่ ด้านหลังเป็นกำแพงหินสีแดง หากมาในช่วงฤดูใบไม้ร่วงจะสวยมาก เพราะใบไม้จะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง ฉากหลังเป็นสีแดง มีฉากหน้าเป็นแม่น้ำแล้วก็ก้อนหิน หากถ่าย long exposure จะได้ภาพที่ครบเครื่องเลยทีเดียวครับ ถ่ายช่วงบ่ายนะครับ ( และหากเดินต่อย้อนแม่น้ำขึ้นไปอีก (ไปทางขวาของภาพ) ก็จะเห็นต้น cottonwood เรียงรายอยู่ทางขวาอีกมากเช่นกัน และช่วงเวลาเช้าก็จะเห็น reflected light ทำให้ผนังหินดูเรืองขึ้นมาได้ครับ (ภาพล่าง)
2) จุดที่สองนี้อยู่ใกล้กับ Narrows Alcove ครับ ต้องมองย้อนกลับไปถึงจะเห็น ตอนแรกผมก็เกือบพลาดเหมือนกัน ถ่ายก่อนเที่ยงนิดหน่อยครับ จะได้แสงสาดเรืองๆตรงหลังหินไกลๆ จุดเด่นคือมีสายน้ำเป็นเส้นนำสายตาครับ
3) ลวดลายบนกำแพงหิน ซึ่งอยู่ก่อน Orderville Junction เล็กน้อย หากเดินย้อนทางน้ำขึ้นไป จุดนี้จะอยู่ก่อน Orderville Junction ประมาณ 100 เมตรครับ กำแพงหินนี้อยู่ทางขวามือ มีลวดลายที่สวยมากๆ ภาพตัวอย่างนี้มาจากคุณ komkrit ซึ่งถ่ายทอดมุมนี้มาได้สวยมากๆครับ
4) Floating Rock จุดนี้จะเป็นหินก้อนใหญ่ แสงที่ดีที่สุดอยู่ที่ช่วงเวลาบ่าย ประมาณบ่ายโมงถึงบ่ายสอง ให้เดินเลยหินขึ้นไปแล้วมองย้อนกลับมา จะเห็น Reflected light ดังในภาพครับ
5) The Main Wallstreet จุดนี้สามารถถ่ายได้จากจุดไหนก็ได้ระหว่าง Floating rock ถึง End of Wallstreet ครับ สามารถหามุมได้ตามสะดวก แต่ว่าช่วงเวลาที่แสงดีที่สุดที่จะเห็น Reflected Light คือช่วงเช้า ระหว่าง 10-11 โมงครับ ถ้าอยากจะมาถ่ายจุดนี้ ต้องเริ่มเดินเข้า the narrows ตั้งแต่แปดโมงเช้าครับ และร้าน Zion Adventure เปิดแปดโมง ฉะนั้นต้องขอรับอุปกรณ์กันตั้งแต่เย็นของวันก่อนหน้าครับ (ร้านปิดทุ่มนึง) ผมเองเริ่มเดินเข้า the narrows ช้าไปหน่อย ได้ถ่ายแค่ floating rock เพียงเล็กน้อย ส่วน reflected light ที่ Wallstreet main canyon ในช่วงเช้านั้นถ่ายไม่ทันครับ หนนี้ต้องมีซ่อม 5555 (ภาพจาก Michael Anderson และ Ian Plant ครับ)
ฉะนั้นหากคุณสนใจที่จะเข้าไปถ่ายภาพใน the narrows ความเห็นผมเป็นดังนี้ครับ
ดูพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิด ต้องไม่มีฝนตกหรือหิมะตก ฟ้าต้องเคลียร์เพื่อให้มีแสงส่องลงมาใน canyon จากนั้น หากต้องเช่าอุปกรณ์ให้ติดต่อให้พร้อม และเริ่มเดินไม่ช้ากว่า 8am เพื่อให้ไปทันแสงในจุดที่ 5 ก่อน จากนั้นพักกินข้าว เดินมาจุดที่ 1 หรือ 2 แล้วไล่ย้อนถ่ายไปจนถึงจุดที่ 4 ครับ จุดที่ 4 และ 5 เป็นสองจุดที่แสงมีผลมากๆ ฉะนั้นการอยู่ถูกที่ถูกเวลาเป็นเรื่องที่สำคัญมากครับ
หากมีข้อสงสัย อีเมลล์สอบถามได้ครับ
เดินทางให้สนุก และปลอดภัยครับ
You must be logged in to post a comment.